ฝากรูป
ฝากไฟล์
upload.212cafe.com
โค่นทักษิณ!ผบ.ทบ.ชิงนำปฏิวัติดับวิกฤติคุมตัวรุ่น10ไม่เสียเลือดเนื้อ
คัดจากเว็บนสพ.ไทยโพสต์
(http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=20/Sep/2549&news_id=130366&cat_
id=501)
โค่นทรราช! คณะปฏิรูปการปกครอง นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ปฏิวัติยึดอำนาจ
พ.ต.ท.ทักษิณโดยไม่เสียเลือดเนื้อ
ก่อนหน้าข่าวสะพัดตลอดทั้งวัน 2 ฝ่ายวางกำลังหักเหลี่ยมเฉือนคมชนิดนาทีต่อนาที เมื่อทหารจากกองทัพภาค
1, 2, 3 รวมทั้งพลร่มป่าหวายเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ พล.อ.พรชัย-ผอ.ข่าวกรองฯ เข้าหารือเครียด
"ธรรมรักษ์" แต่ไม่ทันการณ์ "ทักษิณ" เคว้งที่สหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉินข้ามทวีป
ชิงออกช่อง 9 ไม่ทันจบ ฝ่ายปฏิรูปสั่งตัดทันควัน "ชิดชัย-เรืองโรจน์" ตั้งกองบัญชาการสู้ที่
บก.สส.
ห้วงวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากข่าวการเตรียมชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า วันที่ 20 กันยายน เพื่อต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีแล้ว
ก็ปรากฏว่าได้มีกระแสข่าวแพร่สะพัดไปทุกวงการตั้งแต่เช้า ถึงการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งนี้
ได้มีประชาชนโทรศัพท์สอบถามสื่อมวลชนทุกสำนักตลอดเวลา
บ้างก็โทรศัพท์แจ้งข้อมูลถึงความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
ข่าวแจ้งว่า ในช่วงบ่ายมีรายงานการเคลื่อนกำลังทหารในต่างจังหวัดจากหลายหน่วย
โดยเฉพาะการเคลื่อนกำลังพลของกองทัพบกในพื้นที่ จ.ลพบุรี และกองทัพภาคที่ 3
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นไปยังต้นสังกัด ยอมรับว่ามีการเคลื่อนกำลังทหารจำนวน 4 กองพัน
ของกองทัพภาคที่ 3 และ 5 กองพันของกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ของกองทัพภาคที่ 1 จริง
โดยเป็นการเคลื่อนกำลังเพื่อไปผลัดเปลี่ยนกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามวงรอบงบประมาณปี 2550
นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนกำลังพลจากกองพันทหารม้าที่ 23 และกองพันทหารม้าที่ 24
จากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
เพื่อเตรียมจัดกำลังบางส่วนที่จะไปปฏิบัติงานสนับสนุนกองกำลังผาเมืองที่ปฏิบัติภารกิจป้องกันอธิปไตยตามแ
นวชายแดนที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีการฝึกกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย
และฝึกซ้อมกำลังพลที่จะลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในส่วนของกองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี
ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้มีการเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน
หากเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้นโดยได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้มีความพร้อม
ขณะเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก
ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยที่อยู่ใน
กทม.ดูแลที่ตั้งของหน่วยตัวเอง ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงใช้แผน "ปฐพี 149" 2 ขั้น คือ
ขั้นที่ 1 ให้กำลังพลอยู่ประจำฐานที่ตั้งตามปกติ และขั้นที่ 2
ให้กำลังพลออกไปปฏิบัติภารกิจภายนอกที่ตั้งของหน่วย
กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์หากเกิดเหตุร้ายจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ
หรือกลุ่มผู้ชุมนุมมีการพัฒนาใช้กำลังรุนแรงด้วยการทำลายอาคารสถานที่ต่างๆ
นายทหารระดับสูงผู้หนึ่งยืนยันว่า กองทัพบกมีการเตรียมกำลังความพร้อมจริง
สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า รัฐบาลได้เชิญผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษกะทันหัน
โดยนายกฯ จะประชุมผ่านระบบอินเทอร์เน็ตผ่าน เว็บคาเมรา ปรากฏว่า
ผบ.เหล่าทัพแจ้งติดภารกิจสำคัญไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ โดยในส่วนของกองทัพบก พล.อ.สนธิ
บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ได้มอบหมายให้ พล.อ.โสภณ ศีลพิพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขานุการ กบ.ชต.
เข้าร่วมประชุมแทน
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงกองทัพบก ระบุว่า เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ท.ปรีชา วรรณรัตน์
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์แจ้ง พล.อ.สนธิ ให้เข้าร่วมประชุม แต่
พล.อ.สนธิติดภารกิจในการพบปะกับนายทหารเกษียณอายุที่สนามกอล์ฟย่านลำลูกกา ขณะที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข
ผบ.ทอ. ติดภารกิจให้การต้อนรับ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. ที่เดินทางมาเยี่ยมอำลากองทัพ
เนื่องจากเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้
ข่าวแจ้งว่า มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนกำหนด
จากเดิมวันที่ 22 ก.ย. เลื่อนมาเป็นวันที่ 21 ก.ย. เวลา 05.00 น.
ท่ามกลางกระแสรัฐประหารที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน
มีรายงานจากจังหวัดนครราชสีมาแจ้งว่า เย็นวันอังคาร ทหารประมาณ 1,000 นายจากกองทัพภาคที่ 2
ค่ายสุรนารี นครราชสีมา เคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ
อ้างว่าเพื่อเตรียมรักษาความปลอดภัยจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ขณะที่ทหารจากค่ายจักรพงษ์ภูวนารถ ประมาณ 500 นายก็เคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ โดยจะถึงประมาณ 23.00 น.
เว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ดอทคอม ในห้องราชดำเนิน ได้มีการส่งข้อความจะมีการปฏิวัติในคืนวันที่ 19 ก.ย.
ผู้ส่งข้อความอ้างว่าบิดาเป็นนายทหาร เมื่อตนโทรศัพท์กลับบ้านจึงทราบว่าทหารนัดรวมตัวกันในกองพันเวลา
21.00 น.
ในช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจนครบาลและตำรวจกองปราบปราม พร้อมอาวุธครบมือ
เข้ารักษาการในทำเนียบรัฐบาล ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก รถโมบายและทหารจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าไป
ก่อนที่จะออกไปยังสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
จากนั้นทางสถานีก็แจ้งให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเตรียมพร้อม ขณะที่รายการภาคปกติถูกตัดไปทันที
เป็นการแพร่ภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โดยเปิดเพลงประกอบทั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น.
เวลา 21.00 น.เศษ รถถังเคลื่อนไปรักษาการที่ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้มีรถถังเคลื่อนไหวยังสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท
ข่าวแจ้งว่า การปฏิวัติรัฐประหารเริ่มชัดเจนเป็นลำดับดังนี้
ในช่วงเช้ามีข่าวแพร่สะพัดว่าทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ที่ 2 และที่ 3
เคลื่อนออกจากที่ตั้งเข้ามายังกรุงเทพฯ รวมทั้ง ร.31 พัน.1 กรมทหารราบที่ 9 พล.ม.1 จากจังหวัดเพชรบูรณ์
ซึ่งกำลังทั้งหมดอยู่ในฝ่าย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และเป็นที่จับตาว่า
พล.อ.สนธิไม่เข้าร่วมประชุม ครม. จึงมีข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่าทหารกลุ่มหนึ่งจะปฏิวัติรัฐบาล
ในช่วงเย็น พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผอ.สำนักข่าวกรองฯ เข้าพบ
ผบ.ทบ.ที่บ้านพักเกษะโกมล คาดว่าเป็นการเจรจาเรื่องการทำปฏิวัติรัฐประหาร
ข่าวอีกกระแสหนึ่งแจ้งว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
ได้เดินทางเข้าพระราชวังสวนจิตรลดา พร้อมด้วย พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.พล.1 และ
ผบ.หน่วยทหารเสือราชินี
กระแสข่าวว่า ผบ.ทบ.จะทำปฏิวัติมาจากทำเนียบรัฐบาล และต่อมา แกนนำนายทหารรุ่น 10 ก็เดินทางเข้าพบ
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม ที่บ้านพักเมืองเอก มีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลปล่อยข่าว
ผบ.ทบ.จะปฏิวัติ เพื่อที่จะส่งกำลังของตัวเองทำรัฐประหาร แต่ว่าช้าไป
เวลา 20.30 น. ทหารหน่วยสงครามพิเศษ 1 กองพัน เคลื่อนเข้า บก.ทบ.เข้าไปอยู่ในหอประชุมกิตติขจร
และลานจอดรถชั้น 2 ขณะเดียวกันก็มีรถนายทหารฝ่ายเสธ. ฝ่ายยุทธการ และ ผบ.ทบ.ร่วม 20 คันเข้าไปด้วย
รวมทั้งรถดาวเทียมทหารเข้าไปด้วย
รถถังจาก ม.พัน.4 รอ. จำนวน 3 คันประจำการอยู่หน้าบ้าน พล.อ.เปรมที่สี่เสาเทเวศร์ รถถังอีก 3
คันอยู่ที่หน้าวังแดง ถนนศรีอยุธยา และอีก 4 คันอยู่ที่ถนนประชาเกษมหลัง บก.ทบ. นอกจากนี้ ทหาร 1
กองพันเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ขณะที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท แจ้งมายังช่อง 5
ขอให้ถ่ายทอดภาพและเสียงนายกรัฐมนตรี เรื่องการประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่ช่อง 5 ปฏิเสธ
เวลา 22.30 รถ ม.พัน 4 รอ. เคลื่อนกำลังมาที่ลานพระบรมรูปฯ 2 คัน บริเวณแยกสุโขทัย 1 คัน
หันกระบอกปืนเข้าฝั่งทำเนียบรัฐบาล เป็นที่น่าสังเกตว่าปากประบอกปืนติดริบบิ้นสีเหลือง
จราจรบริเวณถนนราชดำเนินในติดขัด ประชาชนตกใจ บางคนก็ถ่ายรูปรถถังไว้
ไล่เลี่ยกัน คณะปฏิรูปได้ออกประกาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3, 5, 7, 9, 11
และไอทีวีที่ยุติรายการปกติโดยสิ้นเชิงว่า
"เนื่องด้วยขณะนี้คณะปฏิรูปการปกครอง...".
ก่อนหน้าที่คณะปฏิรูปจะออกแถลงการณ์การปฏิวัติยุติลงด้วยความเรียบร้อย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ก็ได้ชิงแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 ว่า
โดยที่ปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลที่จะก่อการปฏิวัติ รัฐประหาร
มีการสั่งเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อโค่นล้มยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎห
มาย ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของรัฐ
ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐและของบุคคล
รวมทั้งกระทบอย่างร้ายแรงต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งจำเป็นต้องมีการมีมาตรการเร่งด่วน
เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรัฐธรรมนูญแห่างราชอาณาจักรไทย
และจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5, 6 และ 11 วรรค 1 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. 2548 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา
29 ประกอบกับมาตรา 31, 35, 36, 37, 39, 44, 48, 50 และมาตรา 51 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัติแห่งกฎหมาย นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
จึงได้ประกาศสถานกาณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เวลา 21.15 น.
ปลด ผบ.ทบ.ข้ามโลก
พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวต่อว่า "พี่น้องครับ ผมขออีก 2 ฉบับ
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้อง กทม.แล้วนั้น
เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม.
เป็นไปอย่างเหมาะสมและทันท่วงที อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (4)
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบกับมาตรา 11 วรรค 2 (6)
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จึงให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
ผู้บัญชาทหารบก มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และให้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์
รักษาการนายกรัฐมนตรี ณ บัดนี้ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
ขออีกคำสั่งหนึ่งครับ คำสั่งผู้กำกับการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
เรื่องแต่งตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และมอบอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพฯ อยู่แล้วนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา
7 วรรค 4 และวรรค 6 และมาตรา 10 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ผู้กำกับการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงมีคำสั่งดังนี้ ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ดังนี้ 1.บังคับบัญชาและสั่งการตรวจราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติอันให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด 2.ดำเนินการอื่นๆ
ตามที่รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการกำกับปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินกำหน
ดหรือมอบหมาย ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป....
คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ทันจบสิ้นความ ภาพหน้าจอทีวีก็ดับวูบเหลือแต่จอขาว ตัดเข้าสู่โฆษณา
ตามด้วยสารคดีพระราชกรณียกิจเฉกเช่นเดียวกับทีวีช่องอื่นๆ
เวลาประมาณ 22.00 น. ทหารได้แยกกันคุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองปราบปราม ในขณะที่ก่อนหน้านี้
ตำรวจคอมมานโดส่วนหนึ่งจากการสั่งของ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ได้เคลื่อนย้ายโดยอ้างว่าจะรักษาความปลอดภัย
แต่เมื่อทหารได้เข้าคุมกองปราบปราม จึงยอมล่าถอยแต่โดยดี ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ
ผบ.ตร. ทราบข่าวนี้แล้วและพักที่บ้านตามปกติ
"สมัคร" หนีตาย "ดุสิต"ถูกรวบ
นอกเหนือจากการเคลื่อนตัวบุกยึดตามสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร แล้ว ยังมีทหารส่วนหนึ่งไปควบคุมบุคคลในเครือข่ายผู้ฝักใฝ่ระบอบทักษิณ อาทิ นายสมัคร
สุนทรเวช ส.ว.กทม. และนายดุสิต ศิริวรรณ สองคู่หูพิธีกรรายการในสถานีเครือข่ายต่างๆ
แต่นายสมัครสามารถหนีเอาตัวรอดไปได้ ขณะที่นายดุสิต ศิริวรรณ ถูกควบคุมตัวไว้
. เวลาประมาณ 23.00 น. สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้เผยแพร่ "ข่าวด่วน"
เกี่ยวกับการประกาศภาวะฉุกเฉินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะที่มีกระแสข่าวว่า
ยังเกิดความสับสนและกำลังทหารได้เข้าควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้แล้ว
นอกจากนั้นสำนักข่าวบีบีซีก็ได้มีการวิเคราะห์ว่า การปฏิวัติดังกล่าวทำให้ประเทศไทยถอยหลัง
มีรายงานว่า หน่วยคุมกำลังที่อยู่ข้างรัฐบาลโดยเฉพาะนายทหารรุ่น 10 ส่วนหนึ่งได้เข้ารายงานตัวต่อ
ผบ.ทบ. ที่ บก.ทบ.แล้ว คือ ผบ.พล.ม.2 ผบ.พล.ปตอ. ผบ.พล.1 รอ.
ข่าวแจ้งด้วยว่า คณะปฏิรูปได้ควบคุมตัว นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไว้ได้
ขณะที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม มีข่าวว่าหนีออกต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์
ผบ.สูงสุด ได้เข้าไปบัญชาการอยู่ใน บก.ทหารสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ
โดยมีกำลังทหารรักษาการณ์ปิดหัว-ท้ายถนนแจ้งวัฒนะ แต่ก็มีข่าวต่อมาว่า คณะปฏิรูปได้ควบคุมตัว
พล.ต.อ.ชิดชัยไว้ได้แล้ว
เวลาใกล้ 24.00 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และ ผบ.เหล่าทัพ เดินทางเข้าเฝ้าฯ
ที่พระราชวังสวนจิตรลดา
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 1
เวลาเดียวกัน พล.ต.ประภาศ สกุลตนาค ที่ปรึกษา ผอ.ทบ.5
ได้ออกมาอ่านประกาศคำแถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างเป็นทางการ ใจความว่า
"ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 1 คณะปฏิรูปการปกครอง.."
ที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทหารเข้ารักษาการโดยมีรถถังจอดไว้ด้วย
มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีที่จะเข้ามารักษาการในช่วงนี้ น่าจะเป็นนายอักขราทร จุฬารัตน
ประธานศาลปกครองสูงสุด
มีรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร พร้อมบุตรคือ นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา
ชินวัตร ได้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศสิงคโปร์.
*************************************************
ช่วงเวลาเกิดเหตุ คุณเอิร์น แม้จะป่วยไม่สบาย ก็พยายามพาตัวขึ้นร้องเพลงที่ "ตะวันแดง"
รามอินทรา
ซึ่งเมื่อรู้ข่าว ก็ยังงงๆ " ปฎิวัติเป็นยังไงอ่ะคะ? " ในขณะที่หลายๆ
คนเริ่มทะยอยกันกลับบ้าน
"พวกเพื่อนๆ หนูหนีหายกันไปหมด หนูยังทานราดหน้าไม่หมดเลยค่ะ"
"หนูก็กำลังกลับบ้านเหมือนกันค่ะ"
เป็นอันว่าคุณเอิร์นปลอดภัย และถือโอกาสพักเสียงพักรักษาอาการป่วยไปพร้อมกันในคราวเดียว
http://w3.manager.co.th/lite/ViewNews.aspx?NewsID=9490000118183